ผมเห็นด้วยกับที่คุณ Jack & Jill ว่ากุมารเป็นพรายครับ เพราะมวลสารที่นำมาทำกุมารเป็นผงกระดูก ยกตัวอย่างเช่นพระเครื่องของหลวงปู่ทิมแห่งวัดละหารไร่ (พระขุนแผนผงพรายกุมาร)ที่โด่งดังอยู่ในขณะนี้และคิดว่าน่าจะเป็นพระขุนแผนอันดับต้นๆ ของประเทศไทย หลวงปู่ทิมก็ได้ใช้ผงกระดูกเด็กที่ตากท้องกลมมาผสมอยู่ในพระเครื่องของท่านด้วย หลวงปู่เคยบอกว่า "คุณพระเห็นช้า จึงต้องเอาผีแทรก" ผู้ที่จะทำของอย่างนี้ได้ จะต้องเป็นผู้ที่รู้จริงและทำได้ตามขั้นตอน ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ทำกันได้ ถ้าคนทำบังคับไม่อยู่ ผู้ที่นำไปใช้ก็จะมีผลเสีย ที่เรียกว่าของเข้า

ตอนนี้กระแสกุมารกำลังมาแรง หลายวัดก็สร้างกุมารกันมากมาย ถ้าของเหล่านั้นผู้ที่ทำทำไม่ได้จริงก็จะมีผลเสียกับผู้ที่นำไปบูชา

ง่าส์  ขอแก้ไขคำผิดนะคะ อย่างน้อยแค่ได้มีสัมผัสที่ 6  สัมผัสเขาได้ แค่นี้**กู**ภูมิใจแล้วค่ะ.  ขอแก้เป็น **ก็**  ภูมิใจ แทนนะคะ  พิมพ์ผิดค่ะ.....5555  รีบมาแก้ตัวก่อนงานเข้า อิอิ

  รู้สึกดีมากๆ เลยที่คุณjackjill ออกมาให้ความคิดเห็นแบบนี้

"อยากให้เพื่อนๆ ทุกคน ใช้สติ และให้ใช้สติ ถามตัวเองดูว่า ตัวเอง อยู่ในกลุ่มใด เพราะหลังจากกระแสซาเมื่อไหร่  ปัญหาการทิ้ง ปล่อยปะ ไม่เหลียวแล ก็จะตามมา ปัญหาต่างๆ ก็จะเกิดขึ้น ปัญหาที่ทุกคนไม่คิดกันคือ เคยได้ยินมั๊ย ทำกินอะไรไม่ขึ้น ติดขัดตลอดเวลา หาทางออกไม่เจอ"

ถึงวันนั้นละตัวของคุณเองที่จะได้รับผลตรงนี้....

สรุปวันนี้คุณคิดว่าอย่างไร....จัดอยู่กลุ่มไหนหรือเจตนาเพื่ออะไร ลึกในใจคุณรู้ของคุณเองแน่นอน

ว่ากลุ่มคนที่คิดจะบูชาเพื่ออะไร เพราะตอนนี้เป็นกระแสอย่างที่คุณว่าจริงๆ

วันใดกระแสหมด นั้นละถึงจะเห็นว่าผลเป็นอย่างไร

ในวันนี้ทุกคนก็การดิ้นร้นในการเงิน สู้กับเศรษฐกิจแบบนี้

วันนี้ไม่ว่าเราจะตอบว่าเราบูชาเพื่ออะไร อยู่ในกลุ่มไหนก็ตาม

ถ้าวันข้างหน้าการกระทำเราทิ้งขว้าง กุมาร นั้นละ

"คงจะเห็นผลอย่างที่คุณjackjillได้กล่าวไว้"

พิมพ์นิดเดียวโพสได้ซะงั้น อุตส่าห์นั่งพิมพ์ตั้งนาน {icon12}

ส่วนตัวผมคงเป็นทุกข้อเลยอะครับ ยกเว้นข้อ 3 ชัวว์

เริ่มต้นจากการเลี้ยงกุมารตอนสมัยเด็กๆ ให้หลวงตาที่วัดทำให้เพราะเห็นของคนข้างบ้านเขาเลี้ยงแล้วมีตัวตนใช้งานได้คล้ายๆคนแต่ไม่เห็นตัว แค่ซื้อหุ่นกุมารตามแบบที่ชอบที่วางขายที่วัดราชนัดดาไปให้เสก ไม่มีอุด-อัดมวลสารใดๆทั้งสิ้น แต่...สุดยอด มาวันแรกของในห้องครัวกระจาย...... จากนั้นก็วิ่งเล่นบนบ้านเป็นที่ครึกครื้นทุกคืนเลย แม่ออกมาว่าก็เงียบไปแป๊บนึง เด๋วก็ครื้นเครงต่อ

แต่ด้วยความไม่รู้และไม่เคยเลี้ยงเลยนึกว่าเลี้ยงไม่เป็นเพราะเอาแต่วิ่งตอนกลางคืนอย่างเดียวเลย เลยโดนพี่ข้างบ้านสวมรอยขอเอาไปเลี้ยงให้ เพราะเขาบอกว่ากุมารยังไม่โตยังใช้งานไม่ได้ เด๋วโตแล้วจะเอามาให้คืน ....สุดท้ายเขาย้ายบ้าน หลังจากนั้นอีก 2 ปีก็ได้ข่าวว่ากุมารของพี่เขาทั้งหมดโดนพี่ชายของเขาเอาไปลอยทะเล เพราะไปกวนลูกเขา....เฮ้ออออเสียดายจัง

หลังจากนั้นก็เลี้ยงกุมารปาหี่ ที่เขามาเล่นกลอับดุลเอ๊ย...ที่ตลาดนัดสนามหลวง เลี้ยงก็เฉยๆหลังจากนั้นก็ห่างหายจากการเลี้ยงกุมาร กลับมาเริ่มเลี้ยงใหม่ ก็เมื่อ ปีที่แล้ว เหตุเพราะคนที่รู้จักกันเขาเลี้ยงของวัดส่มง่ามแล้วมีโชคมีลาภดี ก็ได้ยินชื่อเสียงของหลวงปู่เต๋มาตั้งแต่เด็กแต่ก็เฉยๆเพราะไม่ได้อยู่ระแวกนั้นและวงการพระก็ไม่ได้กว้างขวางแบบในสมัยนี้

เริ่มเลี้ยงจุกหน้ากลางอีกครั้งด้วยความมั่นใจว่าเลี้ยงแบบถูกต้องตามกระบวนยุทธแห่งการเลี้ยงกุมารทองทุกประการ แต่ก็เงียบๆ ก็ไม่เป็นไร เลี้ยงแก้เหงาเผื่อสักวันนึงถ้าจิตกุมารแข็งแกร่งเก่งขึ้นมา คงจะได้ชื่นใจมากกว่านี้ จากที่ได้เห็นรูปทรงและความน่ารักของกุมารแต่ละสำนักที่หลายๆท่านบอกถึงความเฮี้ยนก็สนใจที่อยากจะเลี้ยงดู เผื่อจะเจออย่างเขาบ้าง ไม่ได้เดือดร้อนอารัยเพิ่มเพราะเครื่องเซ่นก็ใช้ชุดเดียวเหมือนเดิม เลี้ยงไปเลี้ยงมาเผลอแป๊ปเดียวเต็มชั้นเลย ก็จะสะสมไว้ต่อไปเพราะชอบในรูปแบบความน่ารักดูแล้วสบายใจของร่างกุมารเข้าแล้ว

หลังจากเริ่มเลี้ยงกุมารในครั้งนี้ทำให้คิดไปเองว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จากคนโสดที่อยากกลับบ้านเวลาไหนก็กลับ อยากไปค้างกับใครที่พอใจก็ไป เที่ยวตะลอนไปกับเพื่อนๆแทบทุกคืน เงินเดือนใช้ชนเดือน กลายเป็นเหลือเงินเก็บมากขึ้น ต้องเผื่อเงินซื้อของเซ่น ต้องกลับบ้านทุกวัน ชวนลูกๆดูหนังดูโทรทัศน์ กลัวลูกๆหิวบ้างหาขนมให้กินเล่น จะต้องกลับมาสวดมนต์ มาเปลี่ยนน้ำให้ลูกๆทุกวัน วันพระก็ไม่ไปไหนต้องรีบกลับบ้านมาเอาเครื่องเซ่น เครื่องบูชาพระ สวดมนต์สารพัดบทจนจำไม่ได้ว่ายาวแค่ไหน บนได้บ้างไม่ได้บ้างก็สนุกสนานกันไป ก็เป็นความสุขในชีวิตไปอีกแบบนึง...

ตอนนี้ก็กังวลอยู่อย่างเดียวหลังจากอีกนี้อีก30-40 ปีข้างหน้า ลูกหลานจะเลี้ยงต่อหรือไม่ ถ้าไม่จะทำอย่างไร....เฮ้ออออออออ กุ้มใจไม่มีลอ.ลิง

ถ้าจิตกุมารของพวกลูกๆแข็งแกร่งขึ้นมาแล้ว มาให้ป๊าเห็นบ้างน๊ะลูก มาแต่เสียงก๊อกๆแก๊กๆแล้วให้หมาหอนเล่นอย่างนี้ไม่เอาน๊ะขี้เกียจฟังแร๊ะ ฮิฮิฮิ

กลุ่ม2  เช่าเก็บบูชา เป็นการสะสม คล้ายๆผม เพราะชอบ ในศิลปะกุมารทองแต่ละวัด

ปกติผมก็บูชา สะสม พระเครื่องแล้วก็เครื่องรางต่างๆๆอยู่แล้วคับ {icon1}{icon1}